วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

My Map

แปลบทความ : CRM and Social Networking: Engaging the Social Customer

ความนิยมของระบบ Social Network เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้รับความนิยมมากแค่ไหน หลายองค์กรพยายามที่จะหาผลประโยชน์จากระบบนี้ โดยนำระบบนี้มาเป็นช่องทางในการบริหารจัดการ ควบคู่ไปกับการขาย และการบริการหลักอื่นๆขององค์กร องค์กรสามารถสร้างข้อได้เปรียบจากระบบ Social Network โดยไม่สูญเสียจุดมุ่งหมายหลักขององค์กร ในที่สุดความสำเร็จก็จะกลับมาที่องค์กร


ระบบ social networking ช่วยให้ลูกค้ารับรับการบริการจากองค์กรอย่างดีและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรธุรกิจ ช่วยลดปัญหาอุปสรรคในการรับข่าวสารระหว่างลูกค้าและองค์กรได้ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริการลง

บริษัท Microsoft ช่วยเหลือลูกค้าของพวกเขาให้ประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย โดยผ่าน Social Networking Accelerator for Microsoft Dynamics CRM ซึ่งเป็น Module เพิ่มเติม ของ Microsoft Dynamics CRM โดยที่ระบบ Social Networking Accelerator จะอณุญาติให้ผู้ใช้ของ Microsoft Dynamics CRM สนทนา ผ่านระบบออนไลน์ ตัวระบบจะมีรูปแบบ Interface ที่ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งเปนส่วนช่วยในการทำงานเชื่อมต่อกับ Social Networking อย่าง twitter

อ้างอิง http://crm.dynamics.com/docs/CRM_and_Social_Networks.pdf

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Hotel web service

Abstract
เว็บไซต์ได้มีบทบาทสำคัญในธุรกิจและช่วยในการส่งเสริมทางด้านการโรงแรม
การวิจัยนี้รายงานการศึกษา ว่าการวิเคราะห์ความแตกต่าง แนวความคิดคุณลักษณะเฉพาะของเว็บไซต์โรงแรม ระหว่าง ผู้ซื้อออนไลน์ กับ browser และ ระหว่าง ผู้ใช้ชาวตะวันตกกับผู้ใช้ชาวเอเชีย
จากประสบการณ์แสดงให้เหนว่า ชุดของคุณลักษณะคือส่วนที่สำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์โณงแรม
ผลการสือค้น บ่งบอกด้วยว่า ความจำเป็นในการออกแบบเว็บไซต์โณงแรมเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนมีความแตกต่างกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองที่ได้รับจากกลุ่มผู้ใช้ 2 กลุ่ม

Conclusion
การแบ่งส่วนทางการตลาดและคุณภาพของข้อมูล การวิเคราะห์เป็นวิธีการที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มรายได้ โดยทำให้ธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบหลักในการแบ่งส่วนการตรลาดคือ กลุ่มลูกค้า โดยวิธีที่ กลุ่มลูกค้าที่มีลักษณะนิสัยเดียวกัน ซึ่งวิธีดั่งเดิมต้องอาศัยวิธีการมากมายในการวิเคราะห์ เพื่อหาขอบเขต และการวิเคราห์แบบแผนการแบ่งกลุ่มงานวิจัยนี้เป็นตัวอย่าง การใช้ SOM สำหรับการลดขนาดและการพัฒนากลุ่ม ทำให้มีความหมายสำหรับการจัดการ SOM รู้จักกันดีในชื่อ neural network based clustering เปรียบเทียบกับ วิธีอื่นๆ SOM สามารถเรียนรู้จากข้อมูลหลายมิติ และปรับเปลี่ยนมันกลายเป็น 2 หรือ 3 มิติ, ช่วยให้เข้าใจง่ายในรูปแบบกราฟิก ความสัมพันธ์เหล่านี้สามารถกลายเป็นความเหมาะสมของความรู้อย่างแท้จริงจากนี้ไป SOM สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการจัดการการตลาด


เอกสารอ้างอิง http://www.mediafire.com/?mnycynrm2kr

Voting System

การลงคะแนนเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกเป็นการนำเอา เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยแก้ปัญหาแบบเดิม ซึ่งการนำมาใช้ นอกจากจะ ขึ้นกับพัฒนาการทางเทคโนโลยีแล้ว ยังสืบเนื่องจากความต้องการที่จะขจัดข้อจำกัดหรือปัญหา จากระบบเดิม อันสืบเนื่องมาจากการลงคะแนนในรูปแบบของการใช้บัตรเลือกตั้ง นับตั้งแต่การพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่ต้องใช้กระดาษจำนวนมาก ต้องมีการเตรียมการจัดพิมพ์และขนส่งให้ทันเวลา การสิ้นเปลืองเนื้อที่และเวลาในการขนส่ง การทุจริตในการลงคะแนน การทุจริตในการนับคะแนน ความล่าช้าในการนับคะแนนและประมวลผลการนับคะแนน

ข้อดีของการนำเอาการลงคะแนนและการนับคะแนนด้วยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการเลือกตั้ง
1) ช่วยขจัดข้อผิดพลาดจากการนับคะแนนเลือกตั้งรวมถึงการลดระยะเวลาในการนับคะแนนและประกาศผลการเลือกตั้ง
2) การลงคะแนนเชื่อถือได้และปลอดภัย
3) ช่วยลดจำนวนการลงคะแนนที่ผิดพลาดอย่างไม่ตั้งใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือบัตรเสีย

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วิเคราะห์บทความ

โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศแหลงน้ำและระบบชลประทาน
- ระบบนี้เป็นการเก็บรวบรวม แหล่งน้ำตามพื้นที่ต่างๆ
- ช่วยในการติดตาม และตรวจสอบสถานการณ์แหล่งน้ำ แต่ล่ะแหล่ง
- จัดข้อมูลแหล่งน้ำให้อยู่ในระบบสารสนเทศ

การแก้ปัญหาทางธุรกิจด้วยระบบสารสนเทศ
Camelot Music : แก้ไขปัญหาทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัท Camelot Music มีการแข่งขันกับร้านค้าปลีกที่ใหญ่กว่า อาทิเช่น Best Buy และ Circuit City ในขณะเดียวกันก็ยังต้องแข่งขันกับร้านค้าขนาดเล็กด้วย บิรษัทจึงใช้เทคนิคการจัดเก็บ
ข้อมูลสมาชิกที่มาซื้อสินค้าเพื่อนำมาสร้างกลุ่มลูกค้า และแจกคูปองในการนำมาซื้อครั้งต่อไป ทำให้บริษัทได้เปรียบคู่แข่ง หลังจากนั้น 2 เดือน ลูกค้าที่มาใช้บริการบ่อยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
กลับมาซื้อสินค้าอีก

ภัยคุกคามความมั่นคงระบบสารสนเทศ
บทความนี้จะนำเสนอถึงการรัษาความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศและภัยที่เกิดขึ้นโดยที่การรักษาความปลอดภัยของขอมูลสารสนเทศ มีส่วนประกอบสำคัญ 4 ส่วนได้แก่
1. การป้องกันการทำงานของระบบต่างๆในองค์กร
2. ปกป้องการดำเนินงานของโปรแกรมใหปลอดภัย
3. การป้องกนขูอมลที่องค์กรใชและเก็บรวบรวม
4. ปกป้องทรัพย์สินเทคโนโลยีในองค์กร
ภัยคุกคามระบบสารสนเทศ มีหลายรูปแบบ เช่น เกิดจากการกระทำที่ผิดพลาดของมนุษย์ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือแม้กระทั้ง จากภัยธรรมชาติเอง ดังนั้น องค์กรต้องค้นหาจุดอ่อนของระบบ สิ่งใดบางที่ไม่มีประสิทธิภาพ

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการความรู้ในองค์กร
จากบทความกล่าวถึงการจัดองค์ความรู้ในองค์กร องค์ความรู้ในส่วนราชการมีมากมาย แต่มีการนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ การจัดการความรู้ในองค์กรนั้นควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

แล้วนำมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งการได้มาซึ่งองค์ความรู้นั้น จะได้มาจาก การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร แล้วนำมาจัดเก็บให้อยู่ในรูปแบบสารสนเทศ แล้วนำมา

วิเคราะห์ หาความได้หาจุดเด่น จุดด่อยขององค์กร เพื่อนำมาพัฒนาองค์กร และองค์ความรู้ต่อไป

การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารโรงพยาบาล (โรงพยาบาลตาก)
โรงพยาบาลตาก ได้นำระบบสารสนเทศเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ ซึ่งเดิมทีจากจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของโรงพยาบาล ใช้กระดาษในการจัดเก็บ แล้วปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบสารสนเทศในการจัดเก็บข้อมูลทำให้ งานมีการตอบสนองงานที่รวดเร็วสร้างความพึ่งพอใจแก่ผู้ใช้ คุณภาพของงานดีขึ้น

การพัฒนาระบบสารสนเทศในการประกันคุณภาพการศึกษา
ระบบสารสนเทศบนเว็บในการประกันคุณภาพการศึกษา สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จะใช้ข้อมูลของสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการศึกษา มีหน้าที่ให้บริการงานห้องสมุดและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัย ระบบดังกล่าวสามารถจัดเก็บข้อมูล และประมวลผลข้อมูลการประกันคุณภาพได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว และช่วยลดขั้นตอนในการจัดทำเอกสารรายงานการประเมินตนเองได้

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แปลบทความ

กล่าวถึง บริษัทต่างๆ พยายามนำเอาท ECRM สร้างความสัมพันธ์ ความไว้วางใจ แก่ลูกค้า

ดังนั้นื ECRM เป็นองค์ประกอบที่สำคัญทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าทางการเงินของบริษัท

E-CRM ศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า พร้อมทั้งการเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ เพื่อเป็นข้อมูลสารสนเทศในการ

ตัดสินใจของบริษัท

ระบบสารสนเทศในโรงพยาบาล

ระบบหน้าร้าน Font Office
ระบบให้บริการการรักษาพยาบาล ได้แก่
  • การจัดตารางการรักษาผู้ป่วยที่นัดล่วงหน้า
  • การทำสถิติการเกิดโรคของผู้ป่วย ในแต่ล่ะช่วง แต่ละเดือน เพื่อจะทราบว่าช่วงเวลาใดผู้ป่วย ป่วยเป็นโรคใดมากที่สุด และจะสามารถจัดเตรียมยาได้ทัน
  • การจัดทำสถิติอุบัติเหตุในแต่ละเดือน เพื่อที่จะสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที ( ซึ่งในประเทศไทยมักจะเกิดขึ้นตามเทศกาลต่างๆ )
  • การจัดทำสถิติโรคที่เสียชีวิต เพื่อนำมาหาทางป้องกันและคำแนะนำแก่ผู้ป่วย
  • สถิติอายุของผู้ป่วยที่มารับการรักษาในแต่ละโรค
  • สถิติการสั่งจ่ายยา
ระบบหน้าร้าน Back Office
ระบบงานด้านการบริการต่างๆ
  • การเงินและบัญชี
  • การจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ
  • การจัดซื้อยา
  • การจัดซื้อจัดจ้าง
ในการพัฒนาจัดหาระบบสารสนเทศภายในโรงพยาบาลนั้น ถ้าถูกพัฒนาโดยคนภายในองค์กรเองแล้ว จะสามารถเข้าใจปัญหาและความต้องการของระบบได้ดีกว่า ว่าจ้าง หรือซื้อระบบสำเร็จรูป เพราะการที่คนในองค์กร อยู่ภายในองค์กรนานๆ จนทำให้เข้าใจและเห็นปัญหาในรูปธรรมมากกว่านามปธรรม ระบบที่ได้รับการพัฒนานั้น จะตอบสนองความต้องการขององค์กรได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ การที่จะพัฒนาระบบขึ้นมาให้เองนั้นจำเป็นจะต้องมีความรู้ความสามารถในหลายๆ ด้าน และรู้ซึ้งถึงปัญหาได้เป็นอย่างดี

การจัดหาระบบสารสนเทศ

1. พัฒนาระบบสารสนเทศขึ้นเอง
ข้อดี จะได้ระบบที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ใช้งบประมาณน้อย
ข้อเสีย หากขาดความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ก็เกิดการเปลืองเวลาและทรัพยากรมาก มีความเสี่ยงสูง

2. ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจัดทำระบบให้ คือ การบริษัทผู้พัฒนาระบบสารสนเทศจากภายนอกองค์กรทำหน้าที่ ให้คำปรึกษา ในการเขียนรายละเอียด สำหรับประมวลงานคอมพิวเตอร์ ให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์ และออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ ให้บริการในการเขียนโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการ ให้บริการติดตั้ง ดูแล ควบคุมระบบงาน ให้บริการอื่น ๆ เช่นการจัดซื้อ จัดหาระบบคอมพิวเตอร์
การเตรียมการเพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาระบบงานคอมพิวเตอร์ ต้องดำเนินการดังนี้

- ผู้ว่าจ้างต้องศึกษาความต้องการให้ชัดเจน
- จัดทำใบแจ้งให้บริษัทเสนอราคามาให้
- จัดส่งประกาศเชิญ
- ประเมินข้อเสนอของบริษัท
- เลือกบริษัทที่ปรึกษา
- เจรจาต่อรองเงื่อนไขและราคา
- จัดทำสัญญาว่าจ้าง
- ควบคุมติดตามและประเมินผลงานของบริษัท
แนว ทางในการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษามาพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ ควรเลือกบริษัทที่มีความมั่นคง มีประสบการณ์ มีบุคลากรที่มีความสามารถตรงสาขามีแนวทางในการพัฒนาที่ดี มีแนวโน้มที่จะทำให้ระบบสามารถประสบความสำเร็จได้
ข้อดีคือ ได้ระบบสารสนเทศที่ได้รับมาตราฐาน ได้รับการปรับปรุงระบบให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ
ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูง อาจสูญเสียควาามลับทางองค์กร

3. การซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จมาใช้
ข้อดี ทำให้สะดวกรวดเร็ว น่าเชื่อถือ มีเอกสารประกอบ ใช้ง่าย ปรับปรุงง่าย
ข้อเสีย บางประเภทมีราคาแพง ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ใช้งานยาก

CRM vs E-CRM

ประโยชน์ของ CRM คือ

1. มีข้อมูลของลูกค้าในด้านต่างๆ

2. วางแผนทางด้านการตลาดและการขายอย่างเหมาะสม

3. ใช้กลยุทธ์ในการตลาด และการขายได้อย่างรวดเร็วอย่างมีประสิทธิภาพตรงความต้องการของลูกค้า

4. เพิ่มและรักษาส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจ

5. ลดการทำงานที่ซับซ้อน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน เพิ่มโอกาสในการแข่งขันก่อให้เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อองค์การ

ประโยชน์ของ E-CRM คือ

1. ใช้ได้ตลอดเวลา

2 ลดงานบางอย่างลง

3. ติดต่อได้โดยตรง

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ระบบสารสนเทศในโรงเรียน

ปัจจุบันการพัฒนาระบบสารสนเทศในโรงเรียน ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ การศึกษาในประเทศไทยในปัจุบันนี้ เริ่มที่จะเร่งเห็นความสำคัญทางด้านการพัฒนาคุณภาพ จากการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน จึงทำให้บริหารในแต่ละโรงเรียนจำเป็นต้องนำระบบสารสนเทศเข้ามาช่วยในการบริหารให้ประสบผลสำเร็จได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ซึ่งระบบสารสนเทศในโรงเรียนนั้นมีความสำคัญโดยเฉพาะด้านวิชาการซึ่งเป็นหัวใจหลักทางด้านการศึกษา การศึกษาที่มีคุณภาพนั้นจำเป็นต้องได้รับข้อมูลที่ทันสมัย ถูกต้อง ครบถ้วน
คุณภาพทางการศึกษา มีความสำคัญ คือ
1. ทำให้ผู้ได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพทางการศึกษาที่เชื่อถือได้ มีความเชื่อมั่น
2. ป้องกันการจัดการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ
ตัวอย่างของระบบสารสนเทศภายในโรงเรียนได้แก่
1. การรับสมัครและลงทะเบียน เช่น การรับนักศึกษา การเปิดรายวิชา การจัดตารางเรียน ตารางสอน การวางแผนหลักสูตร
2. การบริหารงานทั่วไป เช่นการวิเคราะห์การใช้อาคาร ข้อมูลบุคคล การประเมินบุคคลากร การคัดเลือกบุคคลากร
3. การสนับสนุนและบริการทั่วไป เช่น ระบบการสั่งซื้อ การติดตามการสั่งซื้อ พัสดุคงคลัง การซ่อมบำรุง ทะเบียนยานพาหนะ การจัดการที่จอดรถ
4. การวางแผน การจัดการ และวิจัยสถาบัน เช่น การเตรียมงบประมาณ การควบคุมงบประมาณ การศึกษาค่าใช้จ่ายของสถาบัน การวางแผนระยะยาว การพยากรณ์การสมัครเข้าศึกษา

การมีข้อมูล และระบบสารสนเทศที่ถูกต้อง เหมาะสม ย่อมเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดแนวทาง วิธีการ หรือแนวในการปฏิบัติ เพื่อการตัดสินใจ พัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนตลอดจนพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาต่อไป