ระบบ Web service

จากรูป เป็นการจองตั๋วเครื่องบินและการจองรถ ผ่านระบบ Web Service โดยที่ผู้ใช้ สามารถจองผ่านหน้าเว็บ โดยจะแสดงข้อมูลต่างๆ จะทำให้ทราบรายละเอียด การเดินทาง เช่น ระยะเวลา เดินทาง จากต้นทางไปถึงปลายทาง ซึ่งเมื่อได้ทำการจองเที่ยวบินแล้ว ทางบริษัทจองรถ ก็จะสามารถรู้ว่าลูกค้าจะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่ และเตรียมรถไว้ได้ตามวันเวลาที่มาถึง

ตัวอย่างระบบหลังร้าน

ระบบงาน พ.ร.บ ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
เป็นระบบงานที่เก็บรวบรวมเกี่ยวกับองค์การสวัสดิการสังคม นักสังคมสงเคราห์ อาสาสมัคร
และผู้รับบริการ รวมทั้งข้อมูลรายชื่อคณะกรรมการ รายชื่อคณะอนุกรรมการ รายชื่อคณะทำงาน ข้อกำหนด/ระเบียบ/ประกาศตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม และกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการ

จากภาพ เมื่อจะนำคอมพิวเตอร์มาเปรียบเทียบกับระบบสารสนเทศแล้ว

ถ้าถามว่าส่วนใดสำคัญที่สุด ผู้เขียนก็คงตอบว่า ทุกส่วนมีส่วนสำคัญ

นั้นคือ คุณลองนึกถึงการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ คุณจะซื้อเพียง CPU หรือ เพียงแค่หน้าจอ

หรือแม้กระทั้งซื้อมาทุกอย่าง ขาดแต่เพียงเมาส์ ถามว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นใช้ได้ไหม

มันก็ยังคงใช้ได้ แต่ถ้าถามถึงความสมบูรณ์ของเครื่องนั้นล่ะ มันก็คงไม่ 100%

ระบบสารสนเทศก็เช่นเดี่ยวกัน เมื่อระบบ ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป ผลลัพธ์ที่ได้ออกมา ก็อาจจะคลาดเคลื่น

ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ดังนั้น ทุกส่วนถือว่าเป็นองค์ประสอบที่สำคัญ

Web Service กับ องค์กรธุรกิจ

การพัฒนาเว็บเซอร์วิส (Web Services) ในโลกธุรกิจ ถือว่ามีส่วนช่วยในการสร้างเครื่อข่ายธุรกิจ ที่ซึ่งให้ความคล่องตัวสะดวก รวดเร็ว ในการนำเสนอบริการต่างๆ รวมทั้ง เป็นที่ซึ่งเครื่องมือที่ที่ช่วยโต้ตอบ และสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการใช้งานข้อมูลและกระบวนการทางธุรกิจร่วมกันทั่วทุกจุดในเครือข่ายขององค์กรได้ในลักษณะ เรียลไทม์ (real-time) ช่วยเร่งกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในองค์กร และเป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงระบบงานระหว่างแอพพลิเคชั่น เพื่อตอบ สนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยใช้บริษัทต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยีทางด้านไอทีร่วมกันได้ โดยไม่ต้องลงทุนทั้งหมด

ความต้องการในปัจจุบันนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสะดวกและความหลากหลายของสินค้าและบริการบนโลกของอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังมีความต้องการในเรื่องของบริการเว็บไซต์เดียวหรือ One Stop Service หากองค์กรธุรกิจใดสามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ ก็จะได้เป็นผู้นำในธุรกิจ ซึ่งเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดขณะนี้ก็คือ Web Services นั่นเอง

e-service

1. e-service ของ DTAC

ตัวอย่าง e-service

เหตุผลที่ชื่นชอบระบบนี้
1. สามารถส่ง sms ได้ฟรี โดยข้อความที่ส่งจะถูกส่งเป็นเบอร์ของเราที่ลงทะเบียนไว้
2. สามารถใช้บริการโปรโมชั่นต่างๆ ของ DTAC ผ่านระบบนี้ได้

2. e-service ของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ตัวอย่าง e-service ของกรมธุรกิจพานิชย์

เหตุผลที่ชอบระบบนี้
สามารถที่จะจดทะเบียน นิติบุคลผ่านระบบนี้ได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปสำนักงาน แต่ระยะเวลาในการอนุมัติ การจารจดทะเบียนจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 3 วัน ซึ่งถ้าไปติดต่อที่สำนักงาน จะใช้เวลาประมาณ 1 วัน (จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่สำนักงาน ) แต่ก็คงสะดวกในการเดินทางสำหรับคนที่อยู่ไกลจากสำนักงาน

3. e-service ของ TOT

ตัวอย่าง e-service ของ TOT

บริการของ TOT ลูกค้าสามารถสอบถามค่าใช้บริการ รายละเอียดการใช้บริการ ชำระค่าบริการ และตรวจสอบประวัติการใช้บริการได้

ความสัมพันธ์ระบบสารสนเทศกับบคอมพิวเตอร์ ภาษา และอื่นๆ

คลิกดูรูปใหญ่

ระบบสารสนเทศสำหรับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ระบบที่ผู้เขียนจะพัฒนาสำหรับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีคือ ระบบการเรียนรู้เสมือนจิง ซึ่งอาจจะเหมือนกับระบบ UCC (Unified Communication Collaboration) จากผู้เขียนเคยเล่นเกมส์ The sim ซึ่งเป็นเกมส์ชีวิตเสมือนจริง ให้ผู้เล่นได้รู้จักกับเพื่อนบ้าน สามารถโต้ตอบกับสิ่งต่างๆ ได้ภายในเกมส์

ลองนั่งคิดในอีกทาง ถ้าเพิ่มเติมการเรียนรู้ต่างๆ การสร้างตัวละคร เพิ่มสถานที่ต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยเข้าไปให้เสมือนจริงที่สุด มีระบบการลงทะเบียนเรียน เรียนตามตึกต่างๆ ซึ่งถ้าระบบนี้สำเร็จ จะดึงดูดผู้เรียนได้มาก (เผลอๆ ไม่มาเรียน นั่งเล่นแต่ระบบเสมือนนี้ ฮ่าๆ) ซึ่งระบบนี้จะเป็นที่น่าสนใจ แก่ผู้เรียนมากยิ่งขึ้น

ระบบสารสนเทศกับธุรกิจโรงแรม

ในปัจจุบันสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีผลต่อธุรกิจโรงแรมที่พักเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ได้รับผลกระทบ และไม่เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งโรงแรมขนาด 1-3 ดาวนั้นกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย โดยแต่ละแห่งมีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนสถานที่ตั้งตามสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศต่างๆ ที่สวยงามต่างกันออกไป

การพัฒนาระบบสารสนเทศเข้ามาช่วย อาจจะเป็นการจัดทำเว็๋บไซต์ จะช่วยในเรื่องผู้เข้าชมเว็บไซต์กลับกลายมาเป็นลูกค้า ลดปัญหาการเลิกจ้างงานของพนักงาน การเข้าใจและรู้วิธีการทำการตลาดออนไลน์ (E-Marketing) จะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและขยายช่องทางการตลาดได้เป็น อย่างมาก นับเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับโรงแรมระดับ 1 – 3 ดาว และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้เองในอนาคต ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยอำนวยความสะดวกมีทั้ง ระบบจองห้องพักที่สามารถแจ้งสถานะได้ทันที หรือ Instant Booking ทำ ให้เจ้าของห้องพักสามารถปรับราคาและปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นเองได้ รวมทั้งมีระบบจองทัวร์ รองรับการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ฯลฯ ทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

บทความจาก http://y29.wikidot.com/ucc-5220221054

จากบทความที่อ่านนั้น ระบบสารสนเทศที่ผู้เขียนแนะนำและคิดจะพัฒนาคือ การให้ผู้เรียนและผู้สอน สามารถโต้ตอบกันได้แบบ real time แบบ video conferance ซึ่งจะทำให้การเรียนการสอน จะเสมือนจริงที่สุด ผู้เรียนสามารถสอบถาม ผู้สอนสามาถตอบได้ในเวลาขณะนั้นเลย

ตายไปแล้วยังไม่พ้น โลดแล่นบนโลกออนไลน์

การที่รัฐบาลฮ่องกงนำสารสนเทศเข้ามาใช้กับการเคารพศพของบรรพบุรุษของชาวฮ่องกงนั้น รัฐบาลเริ่มมองเห็นปัญหาการขาดแคลนที่ดินที่ใช้ในการฝั่งศพ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวฮ่องกงหรือชาวจีน ที่นิยมฝั่งมากกว่าการเผา จึงได้นำสารสนเทศที่เป็นระบบเคารพหลุมศพ ออนไลน์เกิดขึ้น ซึ่งระบบนี้จะช่วยในเรื่องการมาเคารพหลุดศพได้สะดวก สามารถเคารพที่ใดก็ได้ และเป็นไอเดียที่ดี

แต่ในมุมมองของผู้เขียน ถ้าผู้เขียนเป็นญาติกับผู้ที่เสียชีวิต คงไม่อยากนั่งเคารพศพของญาติ ผ่านหน้าจอ คอมพิวเตอร์ เพราะมันคงจะฉีกวัฒนธรรมการเคารพหลุดศพออกไปคนละด้าน ถึงแม้ว่าในระบบนั้นจะมีเครื่องมือที่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นธูป เทียน ดอกไม้ต่างๆ แต่มันคงไม่ได้บรรยากาศ เท่ากับการไปเคารพหลุมศพจริงๆ ถึงแม้ว่าการฝังหลุมศพจะมีระยะเวลาที่จำกัด แต่ตามวัฒธรรมแล้ว คงจะมีรูปและดอกไม้ไว้ที่บ้านเพื่อเคารพผู้ที่เสียชีวิตไป

การนำสารสนเทศเข้ามาช่วยกับบางสิ่งบางอย่าง ทำให้สะดวก รวดเร็วขึ้น แต่สำหรับวัฒธรรมหรือประเพณีต่างๆ อาจจะต้องการความดังเดิม และสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นไอความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรม ได้มากกว่าการนำระบบนี้มาใช้

ในความคิดของผู้เขียน ถ้าจะพัฒนาระบบนี้ จะนำเสนอเพียงระยะเวลาการฝังศพ เหลือเท่าไหร่ ช่วงเวลาใดที่ผู้คนจะมาไหว้หลุดศพกันเยอะ รายงานสภาพอากาศ ตามสถานที่ต่างๆ ผู้เขียนต้องการที่จะให้ผู้เป็นญาติไปเคารพศพจากหลุดจริงๆ

ประเภทของระบบสารสนเทศ

ระบบประมวลผลรายการประจำ (Transaction Processing Systems)

เป็นระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการบันทึกและประมวลข้อมูลที่เกิดจากธุรกรรมหรือการปฏิบัติงานประจำหรืองานขั้นพื้นฐานขององค์การ เช่น การซื้อขายสินค้า การบันทึกจำนวนวัสดุคงคลัง เมื่อใดก็ตามที่มีการทำธุรกรรมหรือปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะเกิดขึ้นทันที เช่น ทุกครั้งที่มีการขายสินค้า ข้อมูลที่เกิดขึ้นก็คือ ชื่อลูกค้า ประเภทของลูกค้า จำนวนและราคาของสินค้าที่ขายไป รวมทั้งวิธีการชำระเงินของลูกค้า

ลักษณะสำคัญของระบบสารสนเทศแบบ TPS

• มีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
• แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่มาจากภายในและผลที่ได้เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้ภายในองค์การเป็นหลัก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันหุ้นส่วนทางการค้าอาจจะมีส่วนในการป้อนข้อมูลและอนุญาตให้หน่วยงานที่เป็นหุ้นส่วนใช้ผลที่ได้จาก TPS โดยตรง
• กระบวนการประมวลผลข้อมูลมีการดำเนินการเป็นประจำ เช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกสองสัปดาห์
• มีความสามารถในการเก็บฐานข้อมูลจำนวนมาก
• มีการประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็ว เนื่องจากมีปริมาณข้อมูลจำนวนมาก
• TPS จะคอยติดตามและรวบรวมข้อมูลภายหลังที่ผลิตข้อมูลออกมาแล้ว
• ข้อมูลที่ป้อนเข้าไปและที่ผลิตออกมามีลักษณะมีโครงสร้างที่ชัดเจน (structured data)
• ความซับซ้อนในการคิดคำนวณมีน้อย
• มีความแม่นยำค่อนข้างสูง การรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเกี่ยวข้องโดยตรงกับ TPS
• ต้องมีการประมวลผลที่มีความน่าเชื่อถือสูง

ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (Management Information Systems)
เป็นระบบที่ผู้บริหารระดับกลางต้องการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยจัดการสารสนเทศ โดยจะรวมทั้งสารสนเทศภายในและภายนอก สารสนเทศที่เกี่ยวพันกับองค์กรทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งอนาคต นอกจากนี้ระบบ MIS จะต้องให้สารสนเทศภายในช่วงเวลาที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการวางแผนการควบคุมและปฏิบัติการขององค์กรได้อย่างถูกต้องและต้องเป็นข้อมูลที่ช่วยในการบริหารเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ลักษณะของระบบ MIS ที่ดี สามารถสรุปได้ ดังนี้

• ระบบ MIS จะสนับสนุนการทำงานของระบบประมวลผลข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลรายวัน
• ระบบ MIS จะใช้ฐานข้อมูลที่ถูกรวมเข้าด้วยกันและสนับสนุนการทำงานของฝ่ายต่างๆในองค์กร
• ระบบ MIS จะช่วยให้ผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง เรียกใช้ข้อมูลที่เป็นโครงสร้างได้ตามเวลาที่ต้องการ
• ระบบ MIS จะมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับความต้องการข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปขององค์กร
• ระบบ MIS ต้องมีระบบรักษาความลับของข้อมูล และจำกัดการใช้งานของบุคคลเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

ประโยชน์ของระบบ MIS

• ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์
• ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมายกลยุทธ์ และการวางแผนปฏิบัติการ
• ช่วยผู้ใช้ในการตรวจสอบประเมินผลการดำเนินงาน
• ช่วยผู้ใช้ในการศึกษา และวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
• ช่วยลดค่าใช้จ่าย

ระบบสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation Systems)
ระบบสำนักงานอัตโนมัติ (OAS) เป็นระบบที่นำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของสำนักงานเพื่อประโยชน์ในการใช้งานและมีกิจกรรมดังต่อไปนี้

• การสื่อสารข้อมูลภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นบันทึกคำสั่งของผู้บริหาร จดหมายอีเล็กทรอนิกส์ และข่าวสารต่างๆ
• การจัดพิมพ์เอกสารได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและมีคุณภาพในการปฏิบัติงาน
• ใช้ควบคุมการทำงานของระบบโทรศัพท์ เช่น การรับข้อความจากผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาในสำนักงานแล้วบันทึกเสียงไว้
• ออกแบบระบบสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
• การประชุมทางไกลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
• การจัดระบบเอกสารอีเล็กทรอนิกส์
• การกำหนดการนัดหมายของผู้บริหารและการกำหนดเวลาต่าง ๆ
• การคำนวณพื้นฐานของสำนักงาน
• การจัดทำฐานข้อมูลของสำนักงานเป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารและอื่นๆ

ข้อดี

• ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการจัดเตรียมเอกสารกระดาษ การจัดส่ง การรับ การจัดเก็บและการทำลาย รวมทั้งงบประมาณในการจัดจ้างผู้ดำเนินการในแต่ละขั้นตอน
• การเพิ่มประสิทธิภาพในสำนักงาน ลดขั้นตอนเวลาในการพิมพ์ผิด การตรวจสอบแก้ไข ปรับปรุง
• ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องรวดเร็วขึ้น เนื่องจากความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วในการสืบค้น
• ผู้ปฏิบัติงานมีความภาคภูมิใจในสำนักงานและหน่วยงานมากขึ้น เนื่องจากมีสำนักงาน เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย รวดเร็วประหยัดเวลาในการทำงาน
• หน่วยงานและสำนักงานมีภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับหน่วยงานภายในที่ได้รับการบริการและการติดต่อสื่อสารที่ถูกต้องรวดเร็วทันสมัย

ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems)
เป็นระบบสารสนเทศที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริหาร โดยจัดทำรายงานเพื่อช่วยตัดสินใจของผู้บริหารระดับต่าง ๆ ด้วยการนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ผล เพื่อให้ได้ ทางเลือกในการตัดสินใจได้หลายๆทาง และให้ผู้ใช้ได้ตัดสินใจเลือกทางเลือกเอง

ข้อดี

• พัฒนาประสิทธิภาพการทำงานส่วนบุคคล
• พัฒนาประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ถูกต้อง
• มีความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้บริหาร โดยใช้ระบบ การประชุมระยะไกล ผ่านระบบเครือข่าย
• ส่งเสริมการเรียนรู้/การฝึกหัด ผู้ใช้สามารถศึกษากระบวนการใช้เหตุผลของระบบสนับสนุน เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ (ES)
• เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมองค์กร

ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert Systems)
เป็นระบบสารสนเทศที่รวบรวมองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน รวมทั้งปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง สามารถนำเหตุการณ์ต่างๆมาประมวลเป็นภาพรวมเพื่อให้คำตอบแก่ผู้ใช้ระบบซึ่งระบบผู้เชี่ยวชาญนั้นจะแตกต่างจากระบบอื่นๆ อยู่มาก เนื่องจากระบบผู้เชี่ยวชาญจะเกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ (Knowledge) มากกว่าสารสนเทศ และถูกออกแบบมาให้ช่วยในการตัดสินใจโดยใช้วิธีเดียวกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์

ข้อดี

• ช่วยในการเก็บความรู้ของผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งไว้ ทำให้ไม่สูญเสียความรู้นั้น เมื่อผู้เชี่ยว ชาญต้องออกจากองค์กรหรือไม่ปฏิบัติงานได้
• ระบบเชี่ยวชาญ ช่วยขยายขีดความสามารถในการตัดสินใจให้กับผู้บริหารจำนวนมากพร้อมๆกัน
• สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับผู้ทำการตัดสินใจได้เป็นอย่างมาก
• ทำการตัดสินใจในแต่ละครั้งมีความใกล้เคียงและไม่ขัดแย้งกัน
• ช่วยลดการพึ่งพาบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
• มีความเหมาะสมที่จะเป็นระบบในการฝึกสอนอย่างมาก
• ช่วยรักษาความรู้ที่อาจสูญเสียไปเมื่อเกิดการลดออกของพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ
• ช่วยทำให้ข้อมูลมีคุณภาพและมีศักยภาพในการนำมาใช้งานได้อย่างทันท่วงทีเมื่อต้องการ
• ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่
• ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อาจเกิดกับมนุษย์ เช่น ความเมื่อยล้า ความสับสนวุ่นวาย หรือปัญหาด้านอารมณ์
• ใช้เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ด้านการตลาด การลดต้นทุน และการปรับปรุงพัฒนาสินค้า

ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง (Executive Information Systems)
เป็นระบบสารสนเทศที่สนับสนุนผู้บริหารระดับสูง ด้วยการนำข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กรมาประกอบการตัดสินใจ ในระดับกลยุทธ์และนโยบายขององค์กร หรือสามารถกล่าวได้ว่าระบบ EIS ก็คือส่วนหนึ่งของระบบ DSS ที่แยกออกมาเพื่อเน้นในการให้สารสนเทศที่สำคัญต่อการบริหารแก่ผู้บริหารระดับสูงสุด

ข้อดี

• ง่ายต่อการใช้งาน
• ใช้เวลาสั้นในการค้นหาสารสนเทศ
• ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจสารสนเทศที่นำเสนออย่างชัดเจน
• ประหยัดเวลาในการดำเนินงาน
• สามารถติดตาม และจัดการสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย

• มีข้อจำกัดในการใช้งาน เพราะ EIS ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะอย่าง
• ยากต่อการประเมินประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับ
• ไม่สามารถทำการประมวลผลที่ซับซ้อน หลากหลาย
• ยากต่อการจัดการข้อมูล
• ปัญหาด้านการรักษาความลับของข้อมูล

ระบบ TPS

ประโยชน์ของ ระบบ TPS ที่องค์กรสามารถนำไปใช้คือ
ด้านการเงินและบัญชี
- การบันทึกข้อมูลรายรับ และ รายจ่ายขององค์กร
- บันทึกข้อมูลภาษี

ด้านเงินเดือน
- บันทึกข้อมูลเวลทำงานของพนักงงาน ในแต่ละวัน แต่ละเดือน
- การคิดเงินเดือน โดยหักภาษี หรือค่าใช้จ่ายอิื่นๆ

ด้านการสั่งซื้อ
- ข้อมูลกรสั่งซื้อหรือบริกรต่างๆ

ทำไมเราจะต้องมีระบบสารสนเทศ ??

ปัจจุบัน องค์การต่างๆ ก็เริ่มที่จะมองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของระบบสารสนเทศ เพื่อที่จะพาองค์กรไปสู่การพัฒนาสมัยใหม่ และเพื่อประโยชน์ในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ระบบสารสนเทศที่ดีนั้นจะช่วยให้การเก็บรวบรวมข้อมูลการจัดทำสารสนเทศ การรับส่งต่อข้อมูล และสารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์การ ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ดำเนินเชื่อมโยงกันอย่างมีระบบ

ซึ่งความสำคัญและประโยชน์ของระบบสารสนเทศมีมากมาย อาทีเช่น
1. ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมากอย่างเป็นระบบ
2.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสารสนเทศ
3.ช่วยในการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว
4.ช่วยในการเข้าถึงสารสนรเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว